มีบ้านไหนเป็นกันบ้างครับ ของเต็มบ้าน แต่ก็ยังไม่ทิ้งของที่ไม่ใช้สักที คิดและหวังว่าวันใดวันหนึ่งอาจจะได้นำกลับมาใช้ใหม่
ซึ่งก็มีบางวันได้ใช้จริงๆ แต่ก็ประมาณว่า 2 ปี ได้ใช้ 1 ครั้งแล้วก็ต้องคอยค้นคอยเก็บ และทำความสะอาด เรียกว่าหลายขั้นตอนกว่าจะได้ใช้ประโยชน์จริงๆ ใครที่เป็นแบบนี้อยู่จนตอนนี้ไม่มีที่จะเก็บของแล้ว แนะนำให้อ่านจนจบ แล้วจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้แน่นอนครับ
โรคไม่กล้าทิ้ง คืออะไร?
โรค ไม่กล้าทิ้ง หรือ Hoarding Disorder เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีพฤติกรรมสะสมสิ่งของโดยไม่มีความสามารถในการทิ้งหรือกำจัดสิ่งของเหล่านั้น แม้ว่าสิ่งของเหล่านั้นจะไม่จำเป็นหรืออาจทำให้เกิดปัญหาในชีวิตประจำวัน โดยที่สาเหตุของโรคนี้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่มีปัจจัยทางจิตวิทยาและพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องครับ
วิธีแก้ปัญหาโรคไม่กล้าทิ้ง
การบำบัดด้วยการพูด (Cognitive Behavioral Therapy – CBT)
- เป็นวิธีการบำบัดที่ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจและปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสะสมสิ่งของ โดยเน้นที่การลดความวิตกกังวลและเรียนรู้วิธีการตัดสินใจในการทิ้งสิ่งของ
- การฝึกในวิธีนี้อาจรวมถึงการตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ และการให้รางวัลเมื่อสามารถทิ้งสิ่งของบางอย่างได้
การบำบัดแบบช่วยเสริมพลังใจ (Motivational Interviewing)
- เป็นกระบวนการที่มุ่งเน้นการเสริมแรงให้กับผู้ป่วยในการยอมรับว่าการทิ้งสิ่งของเป็นสิ่งที่สำคัญและสามารถช่วยให้ชีวิตดีขึ้น
- ในกระบวนการนี้ ผู้ป่วยจะได้เรียนรู้วิธีการจัดการกับความรู้สึกผสมปนเประหว่างความผูกพันและความวิตกกังวลที่เกิดจากการทิ้งสิ่งของ
การตั้งระเบียบในการจัดเก็บสิ่งของ
- การช่วยให้ผู้ป่วยเรียนรู้วิธีการจัดระเบียบบ้านหรือพื้นที่ส่วนตัวให้เป็นระเบียบและมีการจัดการสิ่งของอย่างมีระเบียบจะช่วยลดความเครียดจากการสะสมสิ่งของ
- สามารถเริ่มจากการทิ้งสิ่งของเล็ก ๆ ที่ไม่จำเป็น เช่น กระดาษหรือของใช้ส่วนตัวที่ไม่เคยใช้
การให้คำปรึกษาและสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อน
- ครอบครัวและเพื่อนสามารถช่วยให้กำลังใจและเป็นผู้สนับสนุนในการสร้างการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้ป่วย
- การพูดคุยถึงปัญหานี้อย่างเปิดเผยและไม่ตัดสินสามารถช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายใจในการขอความช่วยเหลือ
การใช้ยาร่วมกับการบำบัด (ในบางกรณี)
- ในบางกรณีที่มีอาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวลร่วมกับการสะสมสิ่งของ การใช้ยากลุ่ม Selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) อาจช่วยบรรเทาอาการและทำให้การบำบัดทางจิตวิทยามีประสิทธิภาพมากขึ้น
คำแนะนำเพิ่มเติม
- ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
- ตั้งเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม เช่น การทิ้งของบางประเภทในแต่ละครั้ง เช่น เสื้อผ้า หรือ กระดาษที่ไม่จำเป็น
- อาจจะเริ่มจากการเลือกทิ้งสิ่งของที่ชำรุด หรือไม่เคยใช้ในระยะเวลานาน
- จัดระเบียบตามหมวดหมู่
- แบ่งของออกเป็นหมวดหมู่ เช่น เสื้อผ้า หนังสือ ของใช้ในบ้าน และเลือกทิ้งทีละหมวด
- ใช้กล่องหรือถุงเก็บสิ่งของที่ยังไม่ได้ตัดสินใจทิ้ง และให้กำหนดเวลาในการพิจารณาว่าจะเก็บหรือทิ้ง
- เริ่มจากสิ่งที่ง่ายที่สุด
- เริ่มจากการทิ้งสิ่งของที่ไม่ใช้บ่อยหรือไม่จำเป็น เช่น ของชำรุด กระดาษที่ไม่มีประโยชน์ หรือของใช้ที่ซ้ำซ้อน
- ทิ้งสิ่งที่รู้สึกว่าไม่ได้ให้คุณค่าหรือความทรงจำที่สำคัญ
- ใช้กฎ 1 ปี
- ถ้าสิ่งของใดที่คุณไม่ได้ใช้ภายในหนึ่งปี ให้พิจารณาว่าจะทิ้ง หรือให้ส่งต่อให้ผู้อื่นที่อาจใช้งานได้
- หากสิ่งของเหล่านั้นไม่ได้มีมูลค่าเฉพาะตัวหรือความจำเป็น อาจช่วยให้การตัดสินใจทิ้งง่ายขึ้น
- ตั้งเวลาจำกัด
- ตั้งเวลาให้ตัดสินใจทิ้งได้เร็วขึ้น เช่น กำหนดเวลา 5-10 นาทีในการตัดสินใจต่อสิ่งของหนึ่งชิ้น
- ถ้าไม่สามารถตัดสินใจได้ในเวลาที่กำหนด ให้ทิ้งสิ่งนั้นไปและเดินต่อไปยังสิ่งของชิ้นอื่น
- การให้คำปรึกษาหรือความช่วยเหลือจากผู้อื่น
- อาจขอความช่วยเหลือจากเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวในการช่วยตัดสินใจทิ้งสิ่งของ
- การพูดคุยหรือการให้คำแนะนำจากคนรอบข้างสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- การให้รางวัลตนเอง
- เมื่อทิ้งของได้เยอะ ๆ ให้รางวัลตนเองด้วยสิ่งที่มีคุณค่ามากกว่า เช่น การทำกิจกรรมที่ชอบ หรือการพักผ่อน
สรุป
หากใครเป็นโรคนี้ การทิ้งสิ่งของได้เยอะ ๆ ต้องใช้ความอดทนและความกล้าหาญในการตัดสินใจ โดยการเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายเล็ก ๆ และค่อย ๆ เพิ่มจำนวนสิ่งที่ทิ้งจะช่วยให้สามารถจัดการกับปัญหานี้ได้ดียิ่งขึ้นครับ
ขายของ
สำหรับใครที่กังวลว่าทิ้งไปแล้วจะไม่มีใช้เมื่อจำเป็น แนะนำว่า ลองเข้ามาเลือกซื้อหวยกับเราก่อนได้ครับ ถ้าถูกหวยขึ้นมา การซื้อของใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สมาชิกของเราที่เป็นแม่บ้านก็ถูกหวยกันไปหลายคนครับ
สำหรับเว็บไซต์ของเราเป็นหวยออนไลน์ถูกกฎหมาย ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการพนันประเทศอังกฤษ และอเมริกาครับ